ท่าเรือหลักในจีนและปากีสถานสำหรับการขนส่ง
ประเทศ | ชื่อพอร์ต | ความจุ TEU ต่อปี |
---|---|---|
สาธารณรัฐประชาชนจีน | ท่าเรือเซี่ยงไฮ้ | มากกว่า 40 ล้าน TEU |
สาธารณรัฐประชาชนจีน | เซินเจิ้นพอร์ต | ประมาณ 25 ล้าน TEU |
สาธารณรัฐประชาชนจีน | ท่าเรือกวางโจว | มากกว่า 20 ล้าน TEU |
ปากีสถาน | การาจี | ประมาณ 1.5 ล้าน TEU |
ปากีสถาน | กวาดาร์ | ออกแบบความจุสูงสุดถึง 3.2 ล้าน TEU |
ท่าเรือหลักของจีนสำหรับการส่งออกไปยังปากีสถาน
- ท่าเรือเซี่ยงไฮ้: ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เซี่ยงไฮ้ยังคงรักษาสถานะเป็นท่าเรือที่มีการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์มากที่สุดในโลก โดยขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ได้กว่า 40 ล้าน TEU (Twenty-foot Equivalent Unit) ต่อปี ท่าเรือแห่งนี้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการขนส่งระดับโลก โดยให้บริการโลจิสติกส์ที่ทันสมัยและเชื่อมต่อกับท่าเรือกว่า 600 แห่งทั่วโลก รวมถึงท่าเรือสำคัญๆ ในอินเดียด้วย
- ท่าเรือเซินเจิ้น: ท่าเรือเซินเจิ้นตั้งอยู่ในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเจียง โดยท่าเรือแห่งนี้มีตู้สินค้าประมาณ 25 ล้าน TEU ทำให้เป็นหนึ่งในท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ท่าเรือแห่งนี้ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในการขนส่งสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าไฮเทค เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ขั้นสูงและอยู่ใกล้กับศูนย์กลางการผลิต
- ท่าเรือกวางโจว: ท่าเรือแห่งนี้เป็นประตูสำคัญสำหรับการส่งออกจากภาคใต้ของจีน โดยมีความจุในการรองรับสินค้าได้มากกว่า 20 ล้าน TEU รองรับสินค้าประเภทต่างๆ มากมาย และมีบริการที่ครอบคลุม เช่น ท่าเทียบเรือตู้คอนเทนเนอร์ที่ทันสมัยและพิธีการศุลกากรที่มีประสิทธิภาพ
ท่าเรือหลักของปากีสถานสำหรับการนำเข้าจากจีน
การาจีและกวาดาร์เป็นท่าเรือหลักของปากีสถานสำหรับการนำเข้า:
- การาจี: ประตูสู่ทะเลหลักที่ขนส่งสินค้าส่วนใหญ่ของปากีสถานโดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย
- กวาดาร์: วางตำแหน่งให้เป็นศูนย์กลางการค้าในอนาคต โดยมีการเข้าถึงน้ำลึกและมีศักยภาพสำหรับกระบวนการศุลกากรที่คล่องตัว
ท่าเรือเหล่านี้รองรับการนำเข้าจากจีนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการาจีเป็นผู้นำในด้านความสามารถในการดำเนินงาน และกวาดาร์สัญญาว่าจะได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ในอนาคต